เครดิทภาพปกจากเว็บไซต์ hbr.org
Inspiration to be more productive starts here.
ถึงแม้เราจะอยู่ในยุคที่สุขสบายมีพรั่งพร้อมทุกอย่าง อยากดูอะไรก็มีให้ดู อยากกินอะไรก็มีให้กิน แต่ก็ไม่อาจหนีความจริงไปได้ว่าร่างกายของเราที่ใช้อยู่ทุกวัน “ถูกสร้าง” มาให้เข้ากับการใช้ชีวิตในทุ่งหญ้าสะวันนาเหมือนนับแสนปีก่อนที่เราถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก…เช่นนั้นแล้ว กลยุทธ์ในการใช้ชีวิตให้ “สอดคล้อง” กับร่างกายที่เราถูกออกแบบมาโดยวิวัฒนาการ จะช่วยให้เรา in control มิติต่างๆในชีวิตได้มากขึ้น ด้วยความสุขที่มากขึ้น ด้วยพลังที่มากขึ้น
.
และนี่คือ “กิจกรรม” 5 อย่างที่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามันคือกิจกรรม “ธรรมชาติ” ของพวกเราชาว Homo sapiens และถ้าหากใครรู้สึกว่าช่วงนี้ชีวิตมันป่วงๆ มีความเหนื่อยล้าท้อถอย ก็อาจหมายความว่าคุณอาจหลงลืมธรรมชาติของตัวเองอยู่ก็ได้…มาเริ่มต้นกอบกู้ตัวตนที่มีศักยภาพคืนมากัน
.
ปล.โพสนี้จะสรุปย่อสั้นๆ สำหรับให้นำไปลงมือทำได้ทันที แต่ตอนนี้ผมกำลังเขียนเจาะประเด็นนี้อย่างละเอียดอีกที…รอติดตามกันนะครับ
1.เวลาสงบเงียบที่จะได้อยู่กับตัวเอง
สงบนี่คือไม่ใช่แค่เสียงที่วัดเป็นหน่วยวัดเดซิเบล แต่เป็นเรื่องของเสียงที่ดังอยู่ในใจ เราถูกถาโถมด้วยสาระพัดสิ่งอย่างในทุกวัน ควรมีเวลาให้ตัวเองได้ตกตะกอนครุ่นคิดอะไรบ้าง สำหรับผมการเขียนบันทึกก็เป็นอะไรที่ช่วยจัดระบบความคิดและข้อมูลที่เราได้รับมาในแต่ละวัน อีกทั้งเป็นการตรวจสอบสิ่งที่คอยรบกวนจิตใจของเรา ในแง่หนึ่งการอยู่กับตัวเองยังเปิดโอกาสให้เราได้ฟังเสียงของหัวใจเรา ทั้งความหวังความฝันและความหวาดกลัว
“Knowing others is Wisdom, knowing yourself is Enlightenment”
– Lao Tzu –
2.เวลาในการออกกำลังกาย
ข้อนี้จะพูดสั้นๆ ว่า เราไม่ได้ถูกสร้างมาให้ทำทุกอย่างตามใจ เรา evolve มาเป็นแสนเป็นหมื่นปีก่อนเพื่อ “เคลื่อนไหว” และเมื่อใดที่เราพยายามจะฝืนมัน เราจะถูกดีดกลับเพื่อเตือนสติในซักวัน ถ้าไม่วันนี้ ก็วันที่ต้องเข้าโรงพยาบาล
3.เวลาในการเรียนรู้
เราควรแบ่งให้ดีระหว่าง performing zone ของการลงมือทำงาน กับ learning zone ของการเรียนรู้ นั่นคือช่วงที่เราเปิดโอกาสให้ตัวเองเรียนรู้ ทำพลาดทำผิด และพัฒนาในสิ่งที่เราขาด ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบของการอ่านหรือทักษะแปลกๆ ที่เราไม่เคยทำ ใครจะไปรู้ว่าซักวันหนึ่งทักษะเหล่านั้นอาจจะเปลี่ยนชีวิตเราไปทางไหนบ้าง เพราะในท้ายที่สุดเราก็ยังคงเชื่อว่า “การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนกับการเรียนรู้”
ปล.สามารถศึกษเรื่อง perfomance zone and learning zone ได้ที่ TED Talks สุดเจ๋งนี้ หรือติดตามผู้เขียนในโพสต่อๆ ไป เนื่องจากเป็น mental model ที่สำคัญมากๆ ในการพัฒนาตนเอง
.
หากสนใจ ผมเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องของการเรียนรู้ ไว้ดังนี้
4.ใช้เวลากับคนที่มีความหมาย
ข้อนี้ไม่ขอพูดยาว เพราะตัวเองก็ยังทำได้ไม่ดีและละเลยในหลายๆครั้ง แต่ความสุขและคุณค่าในชีวิตนั้นเป็นอย่างที่หนังเรื่อง “Into the wild” ที่ว่า “Happiness is only real when shared” นั่นก็เพราะเหตุผลที่คล้ายๆ กับข้อ 2…เราเป็นสัตว์สังคม (social animal) นั่นเอง
5.การพักผ่อน
เราไม่เคยจะทำทั้ง 4 ข้อออกมาให้ได้ดี ถ้าเราไม่รู้จักการ balance ระหว่างการเร่งเครื่องและการพักผ่อน
อย่ามองว่าการพักเป็นการเสียเวลา ให้มองว่ามันจะช่วยให้เวลาที่เราเดินเครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และพักในที่นี้ไม่เพียงแค่การพักกาย แต่หลายๆครั้งก็หมายถึงจิตใจอันสับสน สำหรับตัวเองพบว่าการไปเดินสวนอาทิตย์ละครั้งเป็นอะไรที่ช่วยได้มากเลยทีเดียว
จบไปแล้ว 5 ข้อที่สั้น กระชับ ง่าย…ถ้าเราไม่เริ่มต้นที่จะดีไซน์ชีวิตของตัวเอง ไม่นานเราก็จะเริ่มเคลื่อนไหลไปกับสิ่งล่อตา ล่อใจและอาจติดเป็น bad habit โดยไม่รู้ตัว เพราะในท้ายที่สุดถ้าเราไม่วางแผนออกแบบชีวิตตัวเอง เราก็จะต้องไปอยู่ในแผนของคนอื่นที่วางไว้ให้เราอยู่ดี
—
คนสายวิทย์ที่จงใจมาทำงานสายธุรกิจและหวังว่าซักวันหนึ่งทั้งสองโลกจะมาเชื่อมกัน
อ้างอิง
1.ที่ผมชอบใช้คำว่า “ความหมาย” ในงานเขียนตัวเองบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ใครอยากศึกษาเพิ่มเติมว่าทำไมชีวิตที่มีความหมาย อาจเป็นสิ่งที่สำคัญพอๆกับชีวิตที่มีความสุขสามารถอ่านได้ที่หนังสือ the power of meaning ที่มีแปลไทยแล้ว โดยนักเขียนที่พูด TED Talk คนนี้
.
2.ข้อแรกเรื่องความสงบค้นพบจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง และไปสอดคล้องกับใจความหลักในหนังสือ “ปัญญาหนึ่งถึงร้อยหมื่น” ของคุณภิญโญในเรื่อง magical moment ที่ไม่อาจเกิดขึ้นหากเราไม่มีเวลาให้จิตใจเราได้นิ่งพอ.
3.เรื่องออกกำลังกายนี่มัน common มากๆ แต่ถ้าใครอยากลองศึกษาเพิ่มเติมใน TED Talk สนุกๆ อันนี้
.
2.ข้อแรกเรื่องความสงบค้นพบจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง และไปสอดคล้องกับใจความหลักในหนังสือ “ปัญญาหนึ่งถึงร้อยหมื่น” ของคุณภิญโญในเรื่อง magical moment ที่ไม่อาจเกิดขึ้นหากเราไม่มีเวลาให้จิตใจเราได้นิ่งพอ.
3.เรื่องออกกำลังกายนี่มัน common มากๆ แต่ถ้าใครอยากลองศึกษาเพิ่มเติมใน TED Talk สนุกๆ อันนี้
ร่วมแสดงความคิดเห็น และแชร์ไปยัง Facebook ของท่าน