มองชีวิตเป็นของขวัญ และนั่นก็เพียงพอแล้ว
Inspiration to be happy start from the within.
ในชีวิตของคนเรา…
ย่อมมีความคาดหวัง ความฝัน ความหวัง
มันคือ “พลังด้านบวก” ที่ผลักตัวเราไปข้างหน้า
เป็นตัวเราในเวอร์ชันที่เก่งกว่าเดิม ดีกว่าเดิม
อีกด้านหนึ่งก็มีความหวาดกลัว
หรือความกังวลต่อสิ่งที่อาจเกิดตามมาหากทำผิดพลาด
เป็นเรื่องธรรมดาที่ม่านหมอกแห่งอนาคตจะน่ากลัว
ภาพมายาคติที่ถูกสร้างขึ้นในจิตใจ
หลายคนเป็นทุกข์และเฝ้าถามว่าถ้าทำผิดพลาดไปจะเป็นอย่างไร
ถ้าไม่ดีพอ จะย่ำแย่แค่ไหน
เคยมีคนบอกว่าหากเราคิดอย่างไรก็เป็นเช่นนั้น
คิดว่าชนะ เราก็คิดถูก คิดว่าแพ้ก็ถูกเช่นกัน
เราย่อมดึงดูดสิ่งที่เราจะคิดว่ามันจะเกิด
จากภาพความคิดในหัว กลายมาเป็นความจริงตรงหน้า
วิจัยความสุข
มีงานวิจัยหนึ่งทดสอบระดับ ความสุข ของคนในสองเหตุการณ์ที่แตกต่างกันระหว่าง
“ฟ้ากับเหว” คนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งและอีกคนประสบอุบัติเหตุเสียขาทั้งสองข้าง
ใช่แล้ว !!! คุณทายไม่ผิดหรอก
คนแรกฟินสุดๆ คนที่สองโลกมืดไปเลย
แต่สิ่งที่ทำให้เหล่านักวิจัยต่างแปลกใจก็คือหลังจากผ่านไปหนึ่งปี
นักวิจัยทำการวัด ความสุข อีกครั้งพบว่า
หากก่อนหน้าถูกหวยเขาเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ไม่พอใจในชีวิต หลังถูกหวยเขาก็จะเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังโต ขับรถคันใหญ่ แต่ก็ยังไม่พอใจในชีวิต
ในขณะเดียวกันคนโชคร้ายเสียขาหากก่อนหน้าเขาเป็นคนดีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มองโลกในแง่ดี หลังเสียขา ตอนแรกเขาอาจซึมเศร้าไปเลยก็ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานพอให้เวลาเยียวยาจิตใจ เขาก็สามารถที่จะกลับมาเป็นคนเดิมที่เขาภูมิใจได้อีกครั้ง
ถึงเสียขาแต่ก็เรียนรู้ที่จะสร้างประโยชน์และคุณค่าในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ได้
สิ่งเหล่านี้บอกเราว่า
เราเดาความรู้สึกของตัวเองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกันไม่เก่ง
เรามักจะสร้างข้ออ้างต่างนาๆ
ว่าถ้าฉันได้สิ่งนั้น ได้เป็นสิ่งนี้แล้วฉันมีความสุข
หรือถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับฉันมันคงทุกข์มาก
แต่จากการศึกษาดังกล่าว เรามักจะทายผิดเสมอๆ
หยุดกันเถอะ เรามาหยุดความเลวร้ายนี้
หยุดที่จะผลักดันตัวเองด้วยพลังด้านลบแห่งความกลัว
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะดีหรือร้าย
มันก็ “ไม่ได้มากมาย” ขนาดนั้น
ขอแค่เราใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
หายใจเข้าลึกๆ สัมผัสอากาศที่ไหลเข้าสู่ปอด
วินาทีใหม่ของชีวิต
“เรายังมีชีวิต” มันเป็นของขวัญ
โอกาสและความเป็นไปได้ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ
ลืมความล้มเหล็วในอดีตและหันมาสร้างฝันให้เป็นจริง
สร้างอนาคตที่รอเราอยู่ข้างหน้า
เราจะใช้ชีวิตอยู่ในความกลัวและกดดันตัวเองไปทำไม
ในเมื่อเรามีอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีกว่า
ออกค้นหาแรงบันดาลใจ สิ่งที่ทำแล้วมีความสุข
สิ่งที่ทำแล้วสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่นและทำให้สังคมดีขึ้น
เป็นทางเลือกที่ไม่ได้บอกว่าเหนื่อยน้อยกว่า
แต่ที่แน่ๆ มีความสุขมากกว่าแน่นอนครับ
เครดิทภาพ
คุณ Nick Vujicic คนบันดาลใจ ผู้พลิกผันจากการเกือบฆ่าตัวตายเป็นนักพูดให้กำลังใจและนักเขียนที่ประสบความสำเร็จระดับโลก (คนนี้เขียนหนังสือแห่งแรงบันดาลใจหลายเล่มเลย)
TED talk
หากสนใจแนวคิดเหล่านี้ลองไปติดตาม คุณ Dan Gilbert ได้เล่าไว้อย่างน่าสนใจที่ TED talk ชื่อเรื่องว่า
The surprising science of happiness
หากชอบบทความนี้สามารถติดตามบทความอ่านสนุก เปิดมุมมองใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตในยุคสมัยแห่งความว่องไวแห่งดิจิตอล พร้อมแรงบันดาลใจจาก หนังสือ โลก และผู้คนที่น่าสนใจได้ที่ Inspiration starts here
คนสายวิทย์ที่จงใจมาทำงานสายธุรกิจและหวังว่าซักวันหนึ่งทั้งสองโลกจะมาเชื่อมกัน