อ้างอิงจากบทความใน World Economic Forum https://bit.ly/2VXsnzL
—
โลกการงานในอนาคตได้ย่างกรายเข้ามาเป็น “โลกความจริง” ของคนทำงานและบริษัทนับล้านๆ ทั่วโลก สิ่งน่ารู้ที่ได้รายงานไว้ล่าสุดในเอกสาร ‘Future of Jobs Report’ คาดการณ์ไปถึงสิ่งที่น่าจะเกิดกับพวกเราทุกคนในปี 2018-2022 ไว้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใน 20 ภาคเศรษฐกิจ และ 12 ภาคอุตสาหกรรม และต่อไปนี้คือสิ่งที่พวกเราควรจะรู้ไว้เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับมันได้อย่างเต็มที่
1.ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบบดิจิตอล (Automation, robotization and digitization) ส่งผลกระทบในแต่ละอุตสาหกรร มไม่เท่ากัน
—
มือถือพร้อมอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ระบบปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) การวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (big data analytics) และคลาวด์เทคโนโลยี (cloud technology) ได้ก้าวเข้ามาเป็นเทคโนโลยีหัวหอกสำคัญที่บริษัทต่างๆ ยินดีที่จะศึกษาและพร้อมรับมาใช้ในการทำงานระหว่างปี 2018 – 2022
.
นอกจากนี้ยังมีอีกมากที่มองว่าการเอาระบบการเรียนรู้ของเครื่องกล (machine learning) และเทคโนยีความจริงเสมือน (augmented and virtual reality) มาใช้เป็นการลุงทุนในอนาคตทางธุรกิจ
.
แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป ในช่วงแรกนี้การลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์แบบที่เราเห็นๆ กันตามภาพยนต์หรือนิยายวิทยาศาสตร์ก็ยังเป็นแค่ความสนใจของกลุ่มคนหรือคณะวิจัยเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
.
ทว่าที่ร้อนแรงขึ้นมากจริงๆ กลับเป็นพวกหุ่นยนต์อัตโนมัติตามโรงงาน (Stationary robots) ที่น่าจจะเป็นกลุ่มของหุ่นยนต์ที่มีการนำไปใช้มากที่สุดก่อนช่วงปี 2022 โดยถูกใช้งานแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของแต่ละอุตสาหกรรม
2.ยังมีอนาคตที่สดใสสำหรับตำแหน่งงาน
(ท่ามกลางการพังทลายของตำแหน่งงานเดิมๆ)
—
.
ถ้าให้พูดในเชิงตัวเลขตรงๆ จะมีตำแหน่งงาน 75 ล้านตำแหน่งในปัจจุบันที่ถู
.
ตัวอย่างอาชีพใหม่ๆ เช่น นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysts), นักพัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต
.
ถึงจะพูดอย่างนี้ แต่งานอีกแบบที่จะเติบโตเช่
3.อัตราส่วนการช่วยกันทำงาน ระหว่าง
มนุษย์-เครื่องจักร-อัลกอริ ทึม
จะเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล
—
.
แต่การคาดการณ์ในปี 2022 ค่าเฉลี่ยชั่วโมงการทำงานจา
.
แต่ในปี 2022 จะต่างออกไป เพราะคาดว่า 62% ของงานประมวลผลข้อมูลในองค์
.
ลองย้อนกลับมาดูจุดตั้งต้นใ
.
แม้แต่ประเภทงานที่เราคิดว่
4.งานใหม่ๆ ย่อมเรียกร้องทักษะใหม่ๆ
—
ภายในปี 2022 เหล่า ‘กลุ่มทักษะ’ ที่พวกเราต้องใช้ทำงานจะเปล
.
***[ผู้แปล: skills stability เป็นค่าที่บอกเราว่าทักษะเด
.
นั่นแปลว่าคนทำงานจะได้เห็น
.
ในส่วนของทักษะที่จะกลายเป็
ทักษะเหล่านี้มักจะเน้นไปที
.
ถึงอย่างนั้นความสามารถทางเ
.
ความละเอียดรอบคอบ ความยืดหยุ่นปรับตัว (resilience) และการแก้ปัญหาที่มีความซับ
.
มิติต่างๆของมนุษย์อย่าง EQ ความเป็นผู้นำ และการสร้างผลกระทบเชิงสังค
5.เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงกา รเรียนรู้ตลอดชีวิตได้อีกต่ อไป
—
ว่าโดยค่าเฉลี่ยแล้ว พนักงานจะต้องการเวลา 101 วันในการฝึกฝนและปัดฝุ่นทัก
.
ปรากฎการณ์ ‘การถ่างออกของช่องว่างทักษ
.
โดยความรุนแรงของภาวะนี้ก็ข
.
การวางแผนทรัพยากรมนุษย์อย่
เพิ่มเติม: บทความนี้เป็นบทความที่แปลจากบทความต้นฉบับที่มีชื่อว่า ‘5 things to know about the future of jobs’ ที่เขียนโดยคุณ Vesselina Stefanova Ratcheva และ Till Leopold ซึ่งเผยแพร้บนเว็บไซต์ weforum.org เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีเป้าประสงค์เพื่อเผยแผ่ความรู้ ทางผู้แปลจึงสืบทอดเจตนาดั้งเดิมของผู้ผลิตบทความต้นฉบับ ซึ่งบทแปลนี้จึงได้หยิบยืมภาพประกอบมาใช้โดยตรงโดยไม่ได้ตัดต่อแต่งเติมแต่อย่างใด หากผู้อ่านสนใจเนื้อหาที่เกี่ยวข้องในเรื่องอนาคตของโลกการงานสามารถเข้าไปดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มที่มีชื่อว่า ‘The Future of Jobs 2018’ ที่จัดทำโดย The World Economic Forum ได้ที่นี่ https://bit.ly/2PNl6A7
เครดิตภาพจาก Deloitte Insights หมวด technology and the future of work