ทำให้ชิ้นส่วนเวลากลับมามีชีวิต
ก็รู้ดีว่าในแต่ละวันของมนุษย์ออฟฟิศอย่างเรามันออกจะแน่นเอี๊ยด แต่เชื่อไหมว่า เอาเข้าจริงแล้วคนเราจะมีชิ้นส่วนของเวลาชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่รวมๆ กันแล้วทั้งวันได้เป็นชั่วโมงเลยล่ะ วันนี้ผมเลยมาแนะนำกิจกรรมที่เหมาะสุดๆ ที่จะมาทำให้เวลาเหล่านี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง สิ่งนั้นก็คือการฟังพอดแคสต์นั่นเอง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบมากๆ เพราะได้ความสนุกเหมือนฟังโชร์ดีๆ ได้ความรู้เหมือนกับอ่านหนังสือ ถ้าเป็นของต่างประเทศก็ได้ฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย
มาดู 6 อันดับ podcast ที่ผมฟังเป็นประจำเพระาชอบเป็นการส่วนตัวกันเลย
1.Witcast
ยกมาอันดับแรกไม่มีเหตุผลอะไรมากไปกว่าชอบมากครับ ติดตามมาอย่างน้อยสี่ปีและไม่เคยทำให้ผิดหวัง หากใครชอบเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ที่จะมาเล่าให้ฟังด้วยความสนุกเฮฮาต้องลองเข้าไปฟงซักตอน ซึ่งพิธีกรทั้งสามคนได้แก่ แทนไท ป๋องแป๋ง และอาบันก็มี character ที่ไม่ธรรมดา
2.Omnivore
ในทางชีววิทยาสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้บริโภคอาจถูกแบ่งเป็น herbivore กินพืช, carnivore กินสัตว์ และ omnivore กินทั้งพืชและสัตว์ นั่นจึงเป็นที่มาของรายการนี้ที่ได้พิธีกรที่เป็นนักเขียน นักคิดที่ผมยกเป็นไอดอลทั้งสองคนคือ พี่หนุ่มโตมร แห่งกองบรรณาธิการบริหาร นิตยสาร GM (พี่เขามี blog เปิดใหม่ของตัวเองด้วย)และ แชมป์-ทีปกร ที่เป็นหัวจั่วแห่งสำนักข่าวออนไลน์ The Matter และเป็นผู้เขียนหนังสือในเครือ Salmon book อีกหลายเล่ม
ในฐานะที่เป็น omnivore เนื้อหาจึงครอบคลุมหลากหลาย ยกตัวอย่างชื่อตอนเช่น Perfectionism(โรคคลั่งความเพอร์เฟกต์), Media(สื่อ) , Home(บ้าน), Sapiens(มนุษย์) เป็นต้น ซึ่งสเน่ห์อย่างหนึ่งของ Podcast นี้คือเรื่องที่ยกหยิบมาเล่ามักจะเป็นหัวข้อพื้นฐานมากๆ แต่กลับเลือกแง่มุมที่น่าสนใจมาตั้งคำถาม และเคมีการพูดคุยของคนทั้งสองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความเนิร์ดฟุ้งออกมาเพราะทั้งคู่เป็นนักอ่านมากประสบการณ์ทำให้จากเรื่องเล็กๆ สามารถแตกประเด็นออกไปได้อย่างกว้างขวางน่าสนใจเป็นที่สุด
3.Startupwit
ข้ามฝั่งมาดูแนวธุรกิจกันบ้าง ซึ่งบอกเลยว่าไม่จำเป็นที่ผู้ฟังจะต้องสนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองเพราะช่องนี้จะมาเชิญชวนผู้ก่อตั้งธุรกิจสมัยใหม่ที่จะมาเล่าถึงความท้าทาย อุปสรรค แรงบันดาลใจต่างๆ ในการทำธุรกิจที่เรียกว่า startup แถม founder แต่ละคนก็ไม่ได้อายุมากอะไรซึ่งเป็นตัวสะท้อนว่าบางทีปัจจัยในการทำอะไรให้สำเร็จ ซึ่งไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องเป็นเชิงธุรกิจเท่านั้น จะต้องมี mindset อย่างไรบ้าง เชื่อว่าจะได้รับแรงบันดาลใจกลับไปไม่มากก็น้อย…เอ้อ ลืมบอกไปว่าช่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของ podcast network ที่มีชื่อว่า “infinity podcast” ซึ่งจะมี podcast ลูกๆ ในเครือที่น่าสนใจอีกมากมาย เข้ามาดูได้ที่นี่
4.mission to the moon
อาจมีบางคนไม่รู้จักคุณ “รวิศ หาญอุตสาหะ” แต่ถ้าพูดถึงแป้ง “แป้งศรีจันทร์” หลายๆ คนโดยเฉพาะคุณผู้หญิงคงจะร้องอ๋อ ความจริงก็คือแบรนด์นี้เกือบจะแห้งเหี่ยวและถูกฝังอยู่กับอดีตไปเสียแล้ว ถ้าคุณหลานผู้จัดพอดแคสต์คนนี้ไม่ลงมือชุบชีวิตศรีจันทร์ให้กลับมาอีกครั้งนับแต่ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่
โดยส่วนตัวผมคิดว่าคุณรวิศมีส่วนผสมที่น่าสนใจระหว่างความเป็น (นักธุรกิจ + storyteller) ซึ่งผมตามอ่านตามดูผลงานของเขาแทบทุกอย่างไล่ตั้งแต่คลิบวีดีโอใน youtube ที่คุณรวิศเดินสายตามงาน conference ใหญ่ๆ โดยเฉพาะแวดวงธุรกิจและ startup ไล่ไปจนถึงหนังสือเล่มที่ออกมาแล้วมากถึง 4 ปก แต่ถ้าจะเอาที่ผมติดตามเป็นประจำจริงๆที่เป็น hubspot ที่เชื่อมโยงทุกอย่างที่คุณรวิศสร้างสรรค์ออกมาบนเพจ mission to the moon
ตัวอย่างตอนฮิตๆ ที่คนฟังเยอะคือตอน “นิสัยแห่งความสำเร็จ” และ “วันๆทำอะไรบ้าง?”
5.the standard podcast
หากพูดถึงสำนักข่าวออนไลน์ที่ลงมาทำ podcast อย่างจริงจังตั้งใจเราคงจะไม่พูดถึง podcast ของ the standard ไม่ได้ เพราะมีมากถึง 7 รายการที่มีความแตกต่างหลากหลายสูงมาก โดยสิ่งที่ชอบคือแม้จะมีหลากหลายเรื่อง แต่คนดำเนินรายการแต่ละคนจะมีความเชี่ยวในแง่มุมนั้นๆ ระดับหนึ่งเลยทีเดียว อย่างช่องเกี่ยวกับการเงินก็ได้พี่พี่หนุ่ม-จักรพงษ์ เมษพันธุ์ (The Money Coach) ส่วนช่องที่ผมชอบมากที่สุดคือช่อง The Secret Sauce ที่ได้เคน นครินทร์ที่เคยเขียนหนังสือขายดีที่ชื่อ “จุลินทรีย์แห่งความสำเร็จ”
ถ้าถามว่าจุดเด่นพอดแคสต์ของ The Standard คืออะไร? ผมคิดว่าคุณภาพของแขกรับเชิญที่มาเข้าร่วมพูดคุยแต่ละตอนน่าจะเป็นคำตอบ ซึ่งก็เป็นผลมาจากการที่เป็นสำนักข่าวก็เลยจะมี connection ในการติดต่อคนมาเข้าร่วมด้วย ที่เห็นอย่างชัดๆก็คือช่อง The Secret Sauce ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทมาแรงที่น่าสนใจอย่าง Line, Google , After you ทำให้ตั้งแต่เข้าไปค้นพบช่องนี้ก็ไม่เคยจะลืมเธอได้ลงจริงๆ
6.TED Radio Hour
สำหรับคนที่พอฟังภาษาอังกฤษได้ อยากแนะนำมากจริงๆ สำหรับ พอดแคสต์ ช่องนี้ จุดเด่นของช่องเป็นการย่อยรวม TED talk หลายๆ ตอนเข้าด้วยกันโดยมีแก่นของเรื่องที่เป็นใจความหลัก เช่น Comfort Zone, The Meaning Of Work, Decoding Our Emotions, The Money Paradox, The Big Five โดยส่วนที่ผมชอบที่สุดคือความกระชับของแต่ละประเด็น เพราะถึงแม้แต่ละตอนจะยาวเกือบๆหนึ่งชั่วโมง แต่เป็นการควบรวมประเด็นที่ว้าวที่สุดของผู้สัมภาษณ์ อย่างน้อย 4-5 คน ในกรอบความคิดของแต่ละ episode…หากใครกำลังต้องการความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ หรือการระดมไอเดียเกี่ยวกับประเด็นใดประเด็นหนึ่ง พอดแคสต์ ช่องนี้จะทำให้ความคิดของคุณสปาร์คจนไหลไม่หยุดเลยล่ะครับ
เพียงหกอันดับอาจไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทดลองฟัง พอดแคสต์ ซึ่งหากพบว่าชอบกิจกรรมแนวๆนี้ ยังมีโลกกว้างให้ตะลุยอีกเยอะเลยโดยเฉพาะช่องในต่างประเทศที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีหัวข้อ topic หลากหลายที่ครอบคลุมความสนใจ
ส่วนหนึ่งที่ผมว่าเจ๋งสำหรับ podcast คือมันสามารถฟังได้ในหลากหลายเวลา หลากหลายสถานการณ์ เป็นการเติมความรู้ไปทีละนิดๆ ซึ่งเอาเข้าจริงถ้าฟังไปทุกวัน อาทิตย์นึงก็เหมือนได้อ่านหนังสือดีเป็นเล่มๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมนอกจากรักษาความสงสัยใคร่รู้ในตัว+เศษส่วนเวลาที่ปกติก็ไม่ได้ใช้ทำอะไรอยู่แล้ว…ช่างเป็นการบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์มากเลยทีเดียว
คนสายวิทย์ที่จงใจมาทำงานสายธุรกิจและหวังว่าซักวันหนึ่งทั้งสองโลกจะมาเชื่อมกัน