เต๊ด เหวียน ด๋าน ตรุษจีนของ เวียดนาม | โดย อ.เกษมสันต์ วีระกุล
เต๊ด เหวียน ด๋าน ตรุษจีนของ เวียดนาม
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ตรุษจีนมาถึงทีไรลูกหลานจีนต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขทั่วหน้า ที่น่าอะเมซิ่งก็คือประเทศใน AEC ของเราที่ถือว่าเทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลสำคัญยิ่งประเทศหนึ่งก็คือเวียดนามครับ ซึ่งที่นั่นเขาจะเรียกเทศกาลตรุษจีนว่า “เต๊ด เหวียน ด๋าน” หรือ ตรุษญวน
ที่เวียดนามเทศกาล “เต๊ด เหวียน ด๋าน” นี่คนเวียดนามเขาถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของเขาจริงๆ เหมือนที่คนจีนนับเป็นวันขึ้น ปีใหม่ ส่วนวันขึ้นปีใหม่สากลคือวันที่ 1 มกราคม นั้นคนเวียดนามเขาไม่ค่อยตื่นเต้นและไม่ค่อยเฉลิมฉลองกันซักเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อถึง “เต๊ด เหวียน ด๋าน” ในเวียดนามจึงเป็นเทศกาลหยุดยาว หยุดกันเป็น 10 วันเลยทีเดียว
คนเวียดนามจะถือโอกาสนี้กลับภูมิลำเนากันหมด กลับกันมากขนาดที่เมืองที่เคยคึกคักมอเตอร์ไซค์เต็มถนน อย่างโฮจิมินห์ยังเงียบเหงาไปถนัดใจเลยล่ะครับ เมื่อกลับไปถึงบ้านเกิดซึ่งส่วนมากคนเวียดนามจะกลับบ้านก่อนวันเต๊ดเป็นอาทิตย์ เพราะพวกเขาจะต้องกลับไปไหว้เทพเจ้าแห่งเตาไฟหรือเทพเจ้าแห่งครัวซึ่งถือเป็นเทพเจ้าที่ดูแลทุกอย่างภายในบ้าน หลังจากนั้นจะมีการไหว้ปลาคาร์ฟและนำปลาคาร์ฟไปปล่อยในแม่น้ำ เพราะคนเวียดนามเชื่อว่าปลาคาร์ฟจะแปลงกายเป็นมังกรแล้วพาเทพเจ้ากลับขึ้นไปสู่สวรรค์นั่นเอง
นอกจากนั้น คนเวียดนามก็จะทำความสะอาดบ้านช่องรวมไปถึง ฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษให้สะอาดเอี่ยมอ่อง ที่น่าอะเมซิ่ง ก็คือฮวงซุ้ยของคนเวียดนามโดยเฉพาะคนที่เป็นเกษตรกร มักจะฝังศพพ่อแม่ของตัวเองไว้ในบริเวณบ้านของตัวเองเลย เพื่อแสดงความรักและความกตัญญูที่มีต่อพ่อแม่ ใครเอาพ่อแม่ไปฝังไกลๆถือว่าเป็นลูกอกตัญญูนะครับ ความเชื่อนี้คล้ายๆกับคนกัมพูชาที่เวลาพ่อแม่เสียชีวิต เขาจะต้องจัดงานสวดในบ้านตัวเอง ใครเอาร่างพ่อแม่ไปทำพิธีที่วัดถือว่าเป็นลูกอกตัญญูครับ
ประเพณี “เต๊ด เหวียน ด๋าน” ของเวียดนามนั้นหลายสิ่งหลายอย่างก็คล้ายๆกับเทศกาลตรุษจีนของคนจีน เพราะได้รับอิทธิพลโดย ตรงจากจีนเพราะในอดีตนั้นจีนเคยปกครองเวียดนามอยู่นับเป็นพันปี เวียดนามจึงซึมซับเอาแนวคิด วัฒนธรรมและ ประเพณีของจีนเอาไว้เยอะมากกว่าประเทศอื่นๆ ใน AEC แต่ก็มีรายละเอียดบางอย่างที่คนเวียดนาม เขามีความ แตกต่าง ออกไป เช่นวันไหว้ในเวียดนามเขาจะไหว้กันถึง 3 วันคือวันแรกไหว้พ่อ วันที่สองไหว้แม่ และวันที่สามไหว้ครูบาอาจารย์ ซึ่งสันนิษฐานว่าการที่คนเวียดนามไหว้ถึงสามวัน และไหว้เลยไปถึงครูบาอาจารย์ด้วยนั้นเป็นเพราะอิทธิพลแนวคิดของ “ลุงโฮ” หรือโฮจิมินห์ที่ได้ปลูกฝังให้คนเวียดนามเป็นคนกตัญญูต่อพ่อแม่และให้ใส่ใจกับการศึกษาให้มากๆ ซึ่ง “ลุงโฮ” เองก็ได้แนวคิดนี้มาจาก “ขงจื๊อ” ของจีนนั่นเอง
ในช่วงเทศกาล “เต๊ด เหวียน ด๋าน” นี้คนเวียดนามจะนิยมออกไปเยี่ยมเยียนคนรู้จัก โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อไปแสดงความเคารพ นับถือ การไปหาก็มักจะมีกระเช้าซึ่งก็จะจัดแบบกระเช้าปีใหม่แบบในไทยติดไม้ติดมือไปฝากผู้ใหญ่กันด้วย การไป เยี่ยมเยียนผู้ใหญ่หรือคนรู้จักเขาก็ไม่ได้ทำกันสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ เพราะที่นั่นเขาถือว่าแขกคนแรกที่มาเยี่ยมเยียนเราที่บ้าน จะเป็นคนที่นำโชคลาภมาให้เรา ดังนั้นคนที่ในปีที่ผ่านมาโชคอาจจะไม่ได้ เจ็บป่วยหรือในครอบครัวมีคนตายเขาก็จะ เก็บตัวไม่ออกไปเยี่ยมเยียนใคร
ของไหว้ยอดนิยมในเทศกาลนี้คือ “แบ๋งห์จึง” ซึ่งเป็น ทำจากข้าวเหนียว ถั่วเขียว เนื้อหมู ห่อด้วยใบไม้สีเขียว รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่บางท้องถิ่นจะห่อเป็นรูปทรงกระบอก เวลากินจะกินคู่กับเยือหมอนหรือผักดองขึ้นชื่อของเวียดนาม ขนมนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของแผ่นดิน ขนมอีกอย่างหนึ่งที่นิยมนำมาไหว้ก็คือ “แบ๋งห์ใหย่” ทำจากข้าวเหนียวนึ่ง รูปวงกลม ซึ่งหมายถึงพระอาทิตย์ สะท้อนคติในเรื่องจักรวาลที่ประกอบไปด้วย ฟ้าและดิน
ส่วนผลไม้นั้นคนเวียดนามนิยมไหว้ด้วย “ผลเฝิตถู่” ซึ่งมีรูปร่างคล้ายนิ้วอันเรียวยาวของพระพุทธเจ้า ถือเป็นผลไม้มงคล ที่ใช้บูชาบรรพบุรุษ หมายถึงการมีสมาธิและตั้งจิตแน่วแน่ในความดี “กล้วยหนึ่งหวี” หมายถึงความเปราะบางและความไม่แน่นอนของชีวิต “ส้มโอ” หมายถึงแผ่นดินหรือความบริบูรณ์ “ลูกพลับ” หมายถึงความรุ่งเรืองและจิตใจที่มั่นคง และ “ส้ม” หมายถึงความรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์
ที่น่าอะเมซิ่งก็คือ คนเวียดนามนิยมที่จะไหว้ด้วยผลไม้เพียง 5 ชนิด เท่านั้นเพราะคนเวียดนามถือว่า ชีวิตที่ดี จะต้องประกอบไปด้วย 5 เรื่องด้วยกันคือ ฐานะร่ำรวย เกียรติยศ อายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง และความสงบสุข